โครงการ IEAT Sustainable Business หรือ ISB นับเป็นโครงการริเริ่มที่ กนอ.ส่งสัญญาณให้ภาคอุตสาหกรรมไทยสะท้อนผลสัมฤทธิ์ที่สอดคล้องสู่ 17 SDGs เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความสำคัญที่ต้องการพลังจากทุกภาคส่วนทั่วโลก มีความต้องการทั้งทางทรัพยากร การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีที่ยั่งยืน ตลอดจนการยกระดับระบบเศรษฐกิจสู่ทิศทางเกื้อกูลสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ BCG Economy ที่ตอบโจทย์การเติบโตของเศรษฐกิจควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็งสังคมและระบบนิเวศอย่างสมดุล
จากกระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในวงกว้างให้แก่ผู้ประกอบการและ ผู้บริหารนิคมได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมเรียนรู้กรอบมาตรฐานการประเมิน ISB Training Program เพื่อเรียนรู้การเพิ่ม IMPACT Performance จำนวน 227 ราย และ นิคมที่เข้าร่วมเรียนรู้ จำนวน 22 ราย นอกจากนั้นยังมีการเผยแพร่เกณฑ์การประเมิน IMPACT ให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจ ไปศึกษาได้ที่ openimpactdata.net
มีผู้ประกอบการนำร่องจำนวน 15 ราย จาก 9 นิคมอุตสาหกรรม เข้าร่วมพัฒนาและประเมิน Impact จากทั้ง 2 มิติสำคัญ ได้แก่ การประเมินการดำเนินธุรกิจ (BIA) และการบริหารจัดการการลงทุนและดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (SIA) ตลอดระยะเวลา 4 เดือนกว่ากับคณะ ISB Coach จำนวน 10 ราย จากผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม การพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจและสังคม
หลังจากนั้น กนอ.ได้รับรองผู้ประกอบการเข้าสู่ ISB LIST เป็นครั้งแรก จำนวน 10 ราย จาก 8 นิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ 1) นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ( บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล และ บมจ. เอสซีจี เคมิคอลส์ ) 2) นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ( บจก. คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) ) 3) นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ( บจก. แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) ) 4) นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ระยอง ( บจก. สตาร์ส เทคโนโลยี อินดัสเตรียล ) 5) นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ( บจก. ครูเกอร์ เวนทิเลชั่น อินดัสทรีส์ เอเชีย และ บมจ. ที.เค.เอส เทคโนโลยี ) 6) นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ( บจก. สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สงขลา) ) 7) นิคมอุตสาหกรรมหนองแค ( บจก. คราวน์ เบ็บแคน แอนด์ โคลสเชอร์ (ประเทศไทย) ) และ 8) นิคมอุตสาหกรรมราชบุรี (บจก.ราชราตันไทยไวร์ ) โดยเกิดการเปิดเผยรายงาน BIA Report และ SIA/SROI Report มาจากองค์กรที่มีความแตกต่างหลากหลาย อาทิ พนักงานตั้งแต่ 70 – 9,221 คน, 6 ประเภทzอุตสาหกรรม และมีระดับรายได้เฉลี่ยตั้งแต่ 107.20 – 368,888 ล้านบาทต่อปี เป็นต้น โดยมีผลการประเมินการดำเนินธุรกิจ (Impact Performance BIA) เฉลี่ย 91.3 สูงกว่ามาตรฐานของประเทศ/ภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีคะแนนเฉลี่ย 86.1 อีกทั้งยังสูงกว่าระดับเกณฑ์มาตรฐาน B Corp ที่ได้รับการรับรอง (ตั้งแต่ 80 คะแนนขึ้นไป) (ดังสรุปผลการประเมินการดำเนินธุรกิจ (BIA) หน้า 6 – 7) นอกจากนี้มีผลรวมการบริหารจัดการการลงทุนและดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (SIA) เฉลี่ย IMPACT จากโครงการที่มีผลสัมฤทธิ์ทางสังคมสูง (High Impact Project) มีมีอัตราผลตอบแทนทางสังคม (SROI) เฉลี่ย 5.55 เท่า (ทุกการลงทุน 1 บาท สร้างผลตอบทางทางสังคม 5.55 บาท) โดยเกิดมูลค่าผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นรวม (IMPACT) 2,532.5 ล้านบาท และมีทรัพยากรที่ใช้ในการดำเนินโครงการ (Input) รวม 456 ล้านบาท (ดังสรุปผลการบริหารจัดการการลงทุนและดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม
นับเป็นโครงการที่ต่อยอดการส่งเสริมมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน (หรือ CSR-DIW) ตลอดจนมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ด้วยการยกระดับเกณฑ์ปฏิบัติที่ดีตามกรอบความรับผิดชอบต่อสังคมของโรงงาน สู่การสะท้อน “ผลสัมฤทธิ์” IMPACT ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่สามารถเทียบเคียงกับผลสัมฤทธิ์ที่ดีในระดับสากลได้ สร้างฐานข้อมูล Impact benchmark ของภาคอุตสาหกรรมไทยในกลุ่ม ISB LIST ตอบโจทย์การสื่อสารสร้างการรับรู้ สร้างความแข็งแกร่งตลอดห่วงโซ่คุณค่าใน Global Supply Chain และดึงดูดนักลงทุน SDGs Impact Investing สู่ภาคอุตสาหกรรมที่สามารถสะท้อนตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ที่ส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ISB Lists 2565


